รวมเหล็กรูปพรรณที่นิยมนำมาใช้ในงานก่อสร้าง
หากคุณเป็นช่างมือใหม่ในวงการก่อสร้าง วันนี้ ยูริกามีข้อมูลดีๆเกี่ยวกับ เหล็กรูปพรรณ ประเภทต่างๆมาฝากกันค่ะ
เหล็กรูปพรรณคืออะไร
เหล็กรูปพรรณ (Structural Steel) คือ เหล็กกล้าที่ผ่านกระบวนการผลิต โดยการกำจัดธาตุคาร์บอนให้เหลือไม่เกิน 2% ของน้ำหนัก ทำให้เหล็กมีค่าความบริสุทธิ์สูงกว่า 94% แล้วนำไปผ่านกระบวนการแปรรูป ให้เป็นรูปทรงต่างๆ ตามประเภทของการใช้งาน
เหล็กรูปพรรณแต่ละชนิด มีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ซึ่งส่งผลต่อคุณภาพและเกรดของวัสดุ โดยแต่ละประเทศจะกำหนดมาตรฐานของเกรดวัสดุที่แตกต่างกัน
เกรดของเหล็กรูปพรรณมีทั้งเกรดชั้นคุณภาพและเกรดมาตรฐาน ซึ่งเกรดชั้นคุณภาพที่นิยมนำมาใช้ในงานโครงสร้างมีทั้งหมด 7 ชั้นคุณภาพด้วยกัน ได้แก่ SS400, SS490, SS540, SM400, SM490, SM520 และ SM570
เหล็กที่ใช้สำหรับงานก่อสร้าง
เหล็กรูปพรรณ ที่นิยมนำมาใช้ในงานก่อสร้างและงานโครงสร้าง มีด้วยกัน 2 ประเภทหลัก ๆ
เหล็กโครงสร้างรูปพรรณรีดร้อน (Hot Rolled Structural Steel) เป็นเหล็กกล้าที่ผ่านกระบวนการหลอม และเติมส่วนผสมทางเคมีให้มีคุณสมบัติและคุณภาพตามมาตรฐาน ก่อนจะนำไปขึ้นรูปเป็นเหล็กแท่งให้มีความหนา แล้วทำการรีดด้วยความร้อนให้ได้ขนาดและรูปทรงต่างๆ ตามประเภทของการใช้งานที่แตกต่างกัน เช่น เหล็กรางยู เหล็กไอบีม เหล็กเอชบีม
เหล็กชนิดนี้ มีบทบาทสำคัญในงานโครงสร้างอาคาร ไม่ว่าจะเป็น บ้าน ที่พัก ลานจอดรถ ตลอดจนอาคารขนาดใหญ่ เพราะนอกจากจะแข็งแรง ทนต่อแรงบิดและแรงกระแทกได้ดี ยังสามารถดัดโค้งได้ง่ายโดยยังคงความแข็งแรงไว้อยู่ เหมาะสำหรับงานก่อสร้างที่ต้องการความสวยงาม
เหล็กรูปพรรณรีดเย็น (Cold formed structural steel) คือ เหล็กโครงสร้างรูปพรรณ ที่ผ่านกระบวนการพับขึ้ันรูปม้วน และเชื่อมให้มีรูปทรงต่างๆในอุณหภูมิปกติ เช่น เหล็กตัวซี เหล็กกล่อง เหล็กฉากพับ เหล็กชนิดนี้ มีความหนาไม่เกิน 3 มิลลิเมตร มีความเหนียวน้อยกว่าเหล็กรูปพรรณรีดร้อน มีน้ำหนักเบา มีความแข็งสูง ทนทานต่อแรงกด ผิวของวัสดุมีความมันวาว เหมาะสำหรับงานโครงสร้างที่รับน้ำหนักไม่มาก นิยมนำมาใช้ในงานโครงสร้าง โครงหลังคา งานสถาปัตยกรรม ด้วยกรรมวิธีการผลิตที่มีการเชื่อมวัสดุเข้าด้วยกัน หากนำมาใช้งานควรตรวจสอบรอยเชื่อมต่างๆ เพื่อให้แน่ใจว่าวัสดุที่ใช้ได้คุณภาพตามมาตรฐานอุตสาหกรรม
เหล็กรูปพรรณ รีดร้อนที่นิยมใช้ในงานโครงสร้าง
เหล็กฉาก (Angle Bar) เป็นเหล็กรูปพรรณ ที่ผลิตจากเหล็กกล้าคาร์บอนรีดร้อน หรืออัลลอยด์ที่มีความแข็งแรง มีลักษณะเป็นรูปทรงตัวแอล (L) ซึ่งผลิตตามมาตรฐาน มอก. 1227-2539 ลักษณะของเหล็กฉากที่มีคุณภาพ มุมฉากต้องตั้งตรง 90 องศา มีด้านยาวเท่ากันทั้งสองด้าน โดยมีขนาดตั้งแต่ 1-6 นิ้ว มีความหนาตั้งแต่ 3-35 มิลลิเมตร เหมาะสำหรับนำไปใช้ในงานโครงสร้างอุตสาหกรรมต่างๆ งานโครงสร้างเหล็กขนาดใหญ่ รวมถึงงานตกแต่งภายนอกและภายใน เนื่องจากวัสดุมีน้ำหนักเบา แข็งแรงทนทาน บริเวณมุมด้านในมีความมนทำให้วัสดุมีความยืดหยุ่น สามารถรองรับน้ำหนักได้ดี ทนต่อแรงสั่นสะเทือนจากสภาพอากาศ ประกอบติดตั้งง่าย หากรื้อถอนสามารถนำกลับมาใช้ได้อีก โดยชิ้นงานที่ผลิตจากเหล็กฉากมีหลายประเภท เช่น เสาไฟฟ้า โครงสร้างโรงงานอุตสาหกรรม ป้ายโฆษณา และงานเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ
เหล็กรางยู (C-Channel) หรือ เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า เหล็กรางน้ำ มีลักษณะหน้าตัดคล้ายรูปตัวยู (U) หน้าตัดมีความเรียบ ปีกทั้งสองข้างทำมุม 90 องศา มีขนาดและความหนาเท่ากันตลอดทั้งเส้น เหล็กรางยูที่ดี จะต้องได้รับรองมาตรฐานอุตสาหกรรมเลขที่ มอก. 1227-2558 ชั้นคุณภาพ SS400-540 และ SM400 เหล็กรางยู มีจุดรับแรงดึงบริเวณด้านใดด้านหนึ่งของรูปทรงหน้าตัดเท่านั้น จึงเหมาะสำหรับนำมาใช้ค้ำโครงสร้างขนาดเล็ก รางคาน หรืองานโครงสร้างเสริมอื่นๆ เช่น โครงหลังคา โครงสร้างเสริมสะพาน คานบันได ป้ายโฆษณา
เหล็กเอชบีม (H-Beam) หรือเรียกว่า เหล็กไวด์แฟรงค์ เป็นเหล็กรูปพรรณรีดร้อนที่มีลักษณะหน้าตัดคล้ายรูปตัวเอช (H) ปีกทั้งสองด้านมีขนาดเท่านกัน และมีความหนากว่าแกนตรงกลาง เหล็กเอชบีมที่มีคุณภาพ จะได้การรับรองมาตรฐานอุตสาหกรรมไทย (TIS) เลขที่ มอก. 1227-2539 เหล็กชนิดนี้ มีความแข็งแรงทนทานกว่าเหล็กรูปทรงอื่นๆจึงรองรับน้ำหนักได้มาก หากต้องการแก้ไขชิ้นงาน สามารถดัดแปลงและต่อเติมได้ง่าย โดยไม่ต้องรื้อโครงสร้างเดิม ทำความสะอาดง่ายเนื่องจากไม่ก่อให้เกิดฝุ่นละอองในระหว่างการก่อสร้าง เหมาะสำหรับนำมาใช้ในงานก่อสร้างขนาดใหญ่ งานโครงสร้างบ้าน เช่น อาคาร โรงงาน บ้าน โครงหลังคา เสา คาน แต่ไม่เหมาะสำหรับงานก่อสร้างที่ต้องรับแรงกระแทกเยอะ
เหล็กไอบีม (I-Beam) มีลักษณะหน้าตัดเป็นรูปตัวไอ (I) หน้าตัดมีความกว้างและความยาวไม่เท่ากัน โดยปีกบนและปีกล่างมีความลาดเอียงเข้าสู่แกนกลาง บริเวณขอบปีกด้านในใกล้ส่วนแกนกลางมีความหนา ส่วนปลายของปีกมีความมน มีความยาวมาตรฐานอยู่ที่ 6-12 เมตร ด้วยรูปทรงที่คล้ายคลึงกับเหล็กเอชบีม ทำให้ผู้ใช้งานอาจสับสนหรือเลือกใช้ผิดประเภทการใช้งาน ซึ่งเหล็กไอบีมจะมีความหนาที่มากกว่า และน้ำหนักต่อเมตรสูงกว่าเหล็กเอชบีม เหล็กไอบีมที่ดี จะต้องได้รับรองมาตรฐานอุตสาหกรรม เลขที่มอก.1277-2539, JIS G 3192-1990, JIS G 3101-1955 และชั้นคุณภาพ SS400, SM400 , SM520 เหล็กชนิดนี้ สามารถรับแรงกระแทก แรงกด และแรงสั่นสะเทือนได้ดีกว่าเหล็กชนิดอื่นๆ นอกจากนี้ ส่วนปลายที่มีความสามารถต้านแรงบิดและการดัดโค้งได้ เหมาะสำหรับนำไปใช้ในงานก่อสร้างที่ต้องรับแรงกระแทกสูงและงานที่รับน้ำหนักมาก เช่น รางเลื่อนเครนในโรงงานอุตสาหกรรม งานโครงสร้างขนาดใหญ่ เสา คาน โรงงานอุตสาหกรรม โครงสร้างหลังคา และงานเครื่องจักรอื่นๆ
เหล็กรูปพรรณ ขึ้นรูปเย็นที่นิยมใช้ในงานโครงสร้าง
เหล็กตัวซี (Light Lip Channel) มีลักษณะหน้าตัดเป็นรูปตัวซี (C) มีปีกเพียงด้านเดียวเท่ากันทั้งสองฝั่ง เหล็กตัวซีที่มีคุณภาพ ผิวของเหล็กต้องมีความเรียบ ไร้รอยต่อ ข้อพับของปีกตั้งฉาก 90 องศา มีความยาว 6 เมตร มีขนาดดั้งแต่ 3-8 นิ้ว มีความหนาตั้งแต่ 1.6 มิลลิเมตร,1.8 มิลลิเมตร, 2 มิลลิเมตร, 2.3 มิลลิเมตร, 3.2 มิลลิเมตร และ 4 มิลลิเมตร และต้องได้รับการรับรองมาตรฐานอุตสาหกรรมเลขที่มอก.1228 – 2549 และชั้นคุณภาพ SSC400 เหล็กชนิดนี้ มีน้ำหนักเบา ทนทาน ความยืดหยุ่นสูง ทนต่อการกัดกร่อนและการเกิดสนิม ขึ้นโครงได้ง่าย สามารถรับน้ำหนักได้พอประมาณ จึงเหมาะสำหรับนำมาใช้เป็นเหล็กเสริม และงานโครงสร้างขนาดเล็กถึงขนาดกลาง เช่น โครงแปหลังคา โครงสร้างบันได เสาค้ำยัน คาน โครงสร้างสะพาน
เหล็กกล่อง เป็นเหล็กรูปพรรณรีดเย็นที่พับขึ้นรูปให้มีลักษณะเป็นกล่องสี่เหลี่ยม ภายในโปร่ง น้ำหนักเบา ซึ่งผลิตตามมาตรฐานมอก. เลขที่ 107-2561 หากเป็นเกรดชั้นคุณภาพ มาตรฐานของเหล็กคือ SS400 เหมาะสำหรับนำไปใช้ในงานโครงสร้างต่างๆเพื่อรองรับน้ำหนัก โครงหลังคาเหล็ก โครงสร้างอาคาร และงานประกอบทรัสทั่วไป สามารถแบ่งตามการใช้งานได้สองประเภท
- เหล็กกล่องสี่เหลี่ยมจตุรัส (Carbon Steel Square Tube) มีลักษณะเป็นท่อกลวงรูปทรงสี่เหลี่ยมจตุรัส มีมุมฉากที่เรียบคม ได้มุมฉาก 90 องศา พื้นผิวมีความเรียบ มีความยาว 6 เมตร เหมาะสำหรับงานโครงสร้างทั่วไปที่รองรับน้ำหนักไม่มาก เช่น งานเสา หน้าต่าง ประตู แปหลังคาขนาดเล็ก นอกจากนี้ สามารถประยุกต์ใช้แทนวัสดุไม้ และคอนกรีต สำหรับผลิตชิ้นงานทั่วไปได้
- เหล็กกล่องสี่เหลี่ยมแบน (Rectangular Steel Tube) มีลักษณะเป็นท่อกลวงทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า คุณสมบัติใกล้เคียงกับเหล็กกล่องสี่เหลี่ยมจตุรัส เหมาะสำหรับนำไปใช้ในงานก่อสร้างขนาดเล็กและปานกลาง และงานที่ต้องการประหยัดพื้นที่ สามารถประยุกต์ใช้ทดแทนวัสดุอื่นๆได้เหมือนกับเหล็กกล่องสี่เหลี่ยม
เหล็กฉากพับ (Cold Formed Channel) มีลักษณะหน้าตัดคล้ายรูปตัวแอล (L) มีมุมพับที่ 90 องศา ซึ่งคล้ายคลึงกับเหล็กฉาก ความแตกต่างของเหล็กทั้งสองชนิดนี้คือ บริเวณมุมภายในและภายนอกของเหล็กฉากพับจะมีความมน ต่างจากมุมของเหล็กฉากที่มีความคม เหล็กชนิดนี้ ผลิตตามมาตรฐานมอก. เลขที่ 1228-2561 มีความยาวมาตรฐาน 6 เมตร มีขนาด 3.2 เมตร สามารถรับแรงดึงได้เป็นอย่างดี มีความยืดหยุ่นสูง รับน้ำหนักได้พอประมาณ เหมาะสำหรับนำมาใช้ใน งานโครงสร้างขนาดเล็ก เช่น งานแปหลังคา งานโครงถักต่างๆ รวมถึงงานเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งทั่วไป
เหล็กรูปพรรณที่ยูริกา ใช้ในการผลิตงานโครงสร้าง และผลิตชิ้นงานเหล็กตามแบบ เป็นวัสดุเหล็กเกรด SS400 ซึ่งเป็นเหล็กเกรดชั้นคุณภาพ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานไทยและสากล โดยชิ้นงานโลหะโครงสร้างที่ยูริการับผลิตมีหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น บันไดเหล็ก โรงจอดรถ และงานโครงสร้างเหล็กอื่นๆ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือขอใบเสนอราคาได้ที่ LINE @eurica